‘หัวใจคือความเข้าใจ’ การเดินทางสู่ความเปลี่ยนแปลงของชายผู้เคยล้มละลายด้านสุขภาพ

 

“ไม่อยากนั่งเฉยๆ แล้ว” น้ำเสียงคึกคักไหลผ่านบทสนทนา ระหว่างเราและคุณเต๋ – เรืองปรีชา โชติรวี ชายวัย 48 ผู้เคยล้มละลายทางด้านสุขภาพ แต่กลับฮึดสู้จนผ่านจุดวิกฤตมาได้  

แม้ว่านัดกันผ่านวิดีโอคอล แต่เราเห็นถึงความแตกต่างได้ในทันทีที่การสนทนาเริ่มต้นขึ้น ระหว่างคุณเต๋เมื่อ 4 ปีที่แล้วกับคุณเต๋ที่ดูสุขภาพแข็งแรงในวันนี้ “พี่น้ำหนักมากขึ้น กินเหล้า เฮฮาปาร์ตี้ ไม่ออกกำลังกายเลย เริ่มอ่อนล้า อ้วน คนร้อยกว่าโล แค่หายใจ เดินบันได 2 ขั้นก็เหนื่อย” คุณเต๋เล่าย้อนไปสมัยก่อนเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง  

“เริ่มแรกแค่ เอาเว้ย! จะลดน้ำหนักก่อน เราไม่ได้ตั้งเป้าไปไกล ว่าเราจะสุขภาพดีแบบทุกวันนี้ เราแค่อยากลดน้ำหนักก่อน อยากเคลื่อนไหวได้สดชื่น” คุณเต๋เล่าต่อว่าเริ่มต้นโดยการทำตามคำแนะนำที่เคยได้ยินกันมา  

“เคยเรียนรู้ว่า เฮ้ย อยากลดน้ำหนักก็ไปออกกำลังกายสิ อยากลดน้ำหนักก็กินให้น้อยลงสิ เราถูกสอนมาอย่างนี้ สุดท้ายเป็นไง ยังมีคนอ้วนมากขึ้น เพราะ Eat less exercise more กินให้น้อยลง ออกกำลังกายให้มากขึ้น สุดท้ายโยโย่ นี่แหละที่ต้องเรียนรู้ว่าเพราะอะไร พอมาเรียนรู้ พอเราเข้าใจ ลดน้ำหนักก็ไม่ได้ยากนี่หว่า แต่ที่มันยากเพราะเราไม่เข้าใจ” 

มีแรงบันดาลใจ แต่ยังขาดข้อมูลความรู้ที่ละเอียดและถูกต้อง – ข้อสรุปของเราหลังจากได้ฟังคุณเต๋อธิบาย “ความรู้ ความเข้าใจ สำคัญมาก” คุณเต๋ย้ำอย่างหนักแน่น “ถ้าเราไม่รู้ คิดว่าไปออกกำลังกายเยอะๆ กินให้น้อยลง ข้าวเย็นไม่ต้องกิน เดี๋ยวก็ผอม แต่ร่างกายไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เช่น กินชานมไข่มุก ร่างกายเปลี่ยนเป็นไขมัน แต่เอามาใช้ไม่ได้ เพราะอะไร” 

“เราต้องไปเรียนรู้ว่าทำอย่างไร เริ่มจากปรับโภชนาการ ต้องเข้าใจก่อน” คุณเต๋ย้ำอีกครั้ง เมื่อเราถามต่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีวันที่รู้สึกหมดกำลังใจบ้างไหม คุณเต๋ตอบแทบจะทันที “ไม่ท้อนะ แต่สมัยก่อนเคยอยากลดน้ำหนัก พี่ทำแบบความคิดเดิม โดยที่เราไม่เข้าใจ ไม่ปรับโภชนาการ” 

อาจเพราะครั้งนี้เริ่มต้นด้วยความเข้าใจ เห็นผลตามเป้าหมาย คำว่าท้อแท้จึงไม่มาเคาะประตู เมื่อน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คุณเต๋จึงเริ่มมองหาโภชนาการที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้ในทุกด้าน เริ่มจากเรียนรู้ว่าในร่างกายเรามีจุลินทรีย์ตัวเล็กๆ อาศัยอยู่นับล้านล้านตัว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการดูแลสุขภาพ จุลินทรีย์มีทั้งดีและไม่ดี เมื่อตัวดีมีมากกว่า สุขภาพลำไส้และภูมิคุ้มกันจะสมดุล ไม่ป่วยง่าย  

คุณเต๋เริ่มจากเสริมจุลินทรีย์ดีที่เรียกว่า ‘โปรไบโอติก’ ในมื้ออาหารด้วยเมนูง่ายๆ อย่างโยเกิร์ต เทมเป้ เป็นประจำทุกวัน “พี่เชื่อมั่นในอาหารสายธรรมชาติเป็นหลัก” คุณเต๋สารภาพว่าไม่ค่อยได้รับประทานอาหารเสริม เพราะเชื่อในอาหารจากธรรมชาติ แต่เมื่อข้อมูลอยู่ในมือแน่นพอ จึงตัดสินใจทดลองรับประทานอาหารเสริมโปรไบโอติกดูสักครั้ง  

“มีแอบคิดว่าจะแทนกันได้ไหม ความรู้สึกตอนแรกเหมือนมีอะไรแปลกปลอม แต่ร่างกายเราค่อยๆ ปรับ ปรากฏว่าสะดวกเวลาไปต่างจังหวัด ทดแทนอาหารธรรมชาติได้” เน้นความสะดวก – คุณเต๋แนะนำอย่างจริงใจ เพราะนอกจากจะสามารถพกพาไปได้ทุกที่ อาหารเสริมโปรไบโอติก ยังช่วยให้ขับถ่ายง่าย และช่วยดูแลสุขภาพทางเดินอาหารได้ไม่น้อยหน้าโยเกิร์ตเลย ที่สำคัญข้อดีอีกอย่างคือมั่นใจว่าเราจะได้รับโปรไบโอติกอย่างเพียงพอ  

ก่อนบทสนทนาจะจบลง คุณเต๋ยังคงย้ำกุญแจความสำเร็จของตัวเอง “เรียนรู้ข้อมูลด้านโภชนาการ สำคัญมากๆ เพราะทุกอย่างที่ทำคือการเรียนรู้ สุขภาพของเราถ้าไม่ดี เราก็ต้องแก้ไข ดีกว่ายอมแพ้ อย่ารอให้ถึงวันที่มีทุกอย่าง ยกเว้นสุขภาพ”  

มาถึงตรงนี้ เราไม่แปลกใจเลยที่กล่องข้อความของคุณเต๋จะเต็มไปด้วยข้อความขอคำปรึกษานับร้อย จากคนที่เชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สุขภาพดีเหมือนที่ชายวัย 48 คนนี้ทำได้